21 สิงหาคม 2553

ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน






ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน



ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน
เมนูนี้เป็นสูตรที่ นิยมสั่งกันมากเพราะมีความอร่อย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยติดใจสูตร ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อนนี้มาก ต้มยำกุ้งเป็นอาหารประจำชาติที่เลื่องชื่อมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองไทย เป็นต้องหาลองชิม ไม่งั้นก็แสดงว่ามาไม่ถึงเมืองไทย

ส่วนผสม
กุ้งแม่น้ำ 6 ตัว
นมข้นชนิดจืด ½ ถ้วย
มะพร้าวอ่อน 1 ลูก
ข่าหั่น 5-6 แว่น
ตะไคร้ทุบ 2 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ผักชีหั่น 1 ต้น

วิธีทำ
1.นำมะพร้าวมาเฉาะเอาน้ำและขูดเนื้อออก เตรียมไว้ เวลาเฉาะต้องเปิดฝามะพร้าวให้สวยงาม
2.นำกุ้งมาผ่าหลังเอาเส้นดำออก ไม่ต้องแกะหัวและหาง
3.นำน้ำมะพร้าวลงใส่หม้อข่า ตะไคร้ ตั้งไฟพอน้ำเดือด ใส่กุ้งลงไปตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนและนมข้นจืด
4.พอน้ำเดือด ให้ใส่พริกเผา และปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรส ให้ออกเปรี้ยวนำ เค็ม หวานตาม เสร็จแล้วปิดไฟ โรยหน้าด้วยผักชี
5.ตักต้มยำใส่ลงในกะลามะพร้าวที่ผ่า เอาเนื้อและน้ำออกแล้ว แต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน
เคล็ดลับความอร่อย
ควรเลือกซื้อกุ้ง แม่น้ำที่สดใหม่ เลือกตัวที่หัวติดกับลำตัวแน่น สีของเปลือกกุ้งต้องเป็นสีธรรมชาติ คือ ใส เนื้อแน่นแข็ง

ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว
น้ำมะพร้าวจะมีเกลือแร่จากธรรมชาติหลายชนิด การดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส

14 สิงหาคม 2553

ต้มยำปลาช่อน

รูปต้มยำปลาช่อนน้ำใส
ต้มยำปลาช่อนน้ำใส
วิธีทำต้มยำปลาช่อน มีทั้งแบบน้ำข้นและน้ำใส ลองมาดูวิธีทำต้มยำปลาช่อนแบบน้ำใสกัน


เครื่องปรุง
• ปลาช่อนขนาดประมาณ 5 ขีด 1 ตัว
• ข่าหั่นแว่น 6 แว่น
• ตะไคร้ทุบ 2 ต้น
• ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
• ใบกะเพรา 1 ถ้วย
• พริกขี้หนูทุบ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นำหม้อใสน้ำประมาณ 1 ใน 3 ของหม้อ ตั้งไฟจนเดือด
2. ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไป
3. รอจนน้ำเดือดจัด แล้วจึงใส่ปลาช่อนลงไป ต้มจนเนื้อปลาสุก
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมะนาว ชมรสให้ออกเปรี้ยวนำ เค็มตา
5. ใส่พริกขี้หนูทุบและใบกะเพรา ปิดไฟ เสิร์ฟร้อนๆ

7 สิงหาคม 2553

ประเภทของต้มยำ

ต้มยำ
ประเภทของต้มยำ
ต้มยำเป้นอาหารพื้นเมืองที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เพราะคนไทยกินกันทุกภาค เป็นอาหารที่ชาวต่างชาตินิยมสั่งกันอยู่ไม่น้อย
หนึ่งในเมนูต้มยำที่ดังกระฉ่อนระดับโลก คือต้มยำกุ้ง ต้มยำเป็นอาหารที่ครบรส คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานเล็กน้อย ทำให้ไม่เลี่ยน ไม่ฝืดคอเวลากิน ต้มยำประกอบไปด้วย
สมุนไพร หลากหลาย ซึ่งดีต่อสุขภาพ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มะนาว หรือ บางเมนู อาจจะมีใบกะเพรา ผักชีฝรั่งและโหระพาร่วมด้วย
นอกจากนี้ยังมี เห็ด ต่างๆรวมทั้ง มะเขือเทศ ผักชี ต้มยำปรุงจากเนื้อสัตว์ ต่างๆได้มากมาย ทั้ง หมู ไก่ ปลา กุ้ง หรือเนื้อวัว ฯลฯ
ต้มยำพอจะแบ่ง ออกเป็น 2 ประเภทได้แก่

1.ต้มยำน้ำใส
ต้มยำน้ำใสนั้นถือได้ว่าเป็นต้นตำรับของต้มยำ เพราะอาหารไทยในอดีตนั้นมักจะไม่ใส่นมหรือกะทิและมักจะปรุงกันอย่างง่ายๆ
ไม่มีเครื่องปรุง อะไรมากมายนัก ถ้าเป็นทางภาคอีสานก็จะต้องเป็นต้มแซบที่ใส่พริกแห้ง และข้าวคั่วลงไปในหม้อต้มนั้นด้วย
โดยต้มยำน้ำใสจะมีส่วนประกอบหลักๆ คือ เนื้อสัตว์ เช่น กบ ปลาช่อน ไก่บ้าน ฯลฯ และจะมีเครื่องเทศหลักๆ คือ ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก
ทั้งสดและแห้ง ข่า เป็นต้น ซึ่งส่วนประกอบที่ได้มานั้นเป็นทั้งเครื่องเทศที่ช่วยในการชูรส ชูกลิ่นของอาหาร อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรอีกด้วย

2. ต้มยำน้ำข้น
ต้มยำที่หลายคนเคยชินกันดี และยังเป็นต้มยำที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับอาหารไทยโด่งดังไปทั่วโลก หลายคนอาจจะคิดว่า
ต้มยำกุ้งน้ำข้นคือต้มยำแบบไทยแท้ แต่แท้จริงแล้วจากประวัติต้มยำกุ้ง ที่เปลี่ยนมาใส่นมกินอย่างน้ำข้นนั้น เริ่มในสมัยรัชกาลที่ 6
ช่วงที่ท่านเสด็จประพาสไปเสวยเหลาแถวสามย่าน สมัยนั้นมีเสหลาของคนจีนเข้ามาใหม่ร้านหนึ่ง เหลาแห่งนั้นทำต้มยำกุ้งใส่นมเป็นน้ำข้น
ใครรุ่นนั้นที่ไฮโซก็ต้องไปกินเหลาร้านนี้ก็จะติดภาพต้มยำกุ้งของไทยต้องใส่นม จริงๆ ไม่ใช่ต้มยำกุ้งดั้งเดิม จริงๆ จะเป็นแบบน้ำใส
และคงเป็นเพราะนมหรือกะทิที่มีการใส่ลงไปในต้มยำ จนทำให้ต้มยำน้ำข้นนั้นคล้ายคลึงกับซุปของชาวต่างชาติที่นิยมใส่นม หรือใส่ครีมลงไป
จึงทำให้ต้มยำกุ้งน้ำข้นของไทยเราโด่งดังไปทั่วโลก