19 ตุลาคม 2554

ต้มแซบปลากด

ต้มแซบปลากด

ปลากดนั้นเป็นปลาหนังไม่มีเกล็ด มีส่วนหัวค่อนข้างแบนราบ แต่ลำตัวแบนข้างไปทางด้านท้าย ปากกว้างอยู่ที่ปลายสุดของจะงอยปาก มีฟันซี่เล็กแหลมขึ้นเป็นแถวบนขากรรไกรและเพดาน มีหนวด 4 คู่ โดยคู่ที่อยู่ตรงริมฝีปากยาวที่สุด ครีบหลังและครีบอกเป็นก้านแข็ง หรือเรียกว่า เงี่ยง ครีบไขมันค่อนข้างยาว ครีบหางเว้าลึก ในตัวผู้มักมีติ่งเล็กๆ ที่ช่องก้น มีการกระจายพันธุ์ตามแหล่งน้ำจืดไปจนถึงน้ำกร่อยตั้งแต่อนุทวีปอินเดีย, เอเชียอาคเนย์ ไปจนถึงหมู่เกาะซุนดา พบประมาณ 200 ชนิด

ส่วนผสมและเครื่องปรุงต้มแซบปลากด
ปลากดตัดปากเอาไส้อออก 4 ตัว
ข่าหั่นเป็นแว่น ๆ 5 แว่น
ใบ มะกรูด ฉีกเป็นชิ้น ๆ 3 ใบ
ตะไคร้หั่นเป็นท่อน ๆ 1 ด้น
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน ๆ 1 ต้น
ผักชีเด็ดเป็นใบ ๆ 1 ต้น
พริกขี้หนูบุบพอแตก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำ 4 ถ้วยตวง
เห็ดฟาง 1/2ถ้วยตวง

เอาน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟใส่ข่า ใบมะกรูด ตะไคร้ พอเดือด ใส่เห็ดฟาง น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย พริกขี้หนู คนให้เข้ากัน ชิมรส ให้รสเปรี้ยว เค็ม หวานนิดหน่อย รสจัด เมื่อชิมรสได้ตามชอบแล้ว รอจนน้ำเดือดให้ใส่ปลากดถ้าใส่ตอนน้ำไม่เดือดปลาจะคาว เมื่อปลาสุกใส่ขึ้นฉ่าย ผักชี ยกหม้อแกงลง ตักใส่ถ้วยรับประทานร้อน ๆ

ปลากด

11 ตุลาคม 2554

ต้มยำปลากระบอกน้ำข้น

ต้มยำปลากระบอกน้ำข้น
ปลากระบอกนั้นเป็นปลาที่มีมีรูปร่างโดยรวมเรียวยาวค่อนข้างกลมเป็นทรงกระบอก ปากมีเล็ก มีครีบหลัง 2 ตอน เป็นปลาที่พบได้ทั้งในน้ำจืด, น้ำกร่อย และทะเล มีตาทรงกลมโต พบทั่วไปในทั้งในทวีปยุโรป, อเมริกาเหนือ และทวีปเอเชีย เช่น อินโด-แปซิฟิก, ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย มีพฤติกรรมอยู่รวมเป็นฝูง มีความปราดเปรียวว่องไว เกล็ดโดยมากเป็นสีเงินเหลือบเขียวหรือเทาขนาดใหญ่ การนำมาปลากระบอกมาทำอาหารสามารถทำได้ทั้งต้มยำ หรือทอดกรอบก็ได้แต่วันนี้เราจะขอน้ำเสนอเมนู ต้มยำปลากระบอกน้ำข้น ซึ่งวิธีการทำและส่วนผสมของต้มยำชามนี้ มีดังนี้

ส่วนผสมและเครื่องปรุงของต้มยำปลากระบอกน้ำข้น
ปลากระบอกหั่นตามขวาง กว้างประมาณ 2 นิ้ว 500 กรัม
ข่าแก่หั่นเป็นแว่น 5-6 แว่น
ตะไคร้หั่นเป็นท่อนบุบพอแตก 2-3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
กะทิ 2 ถ้วย
น้ำพริกเผา 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูบุบ 7-9 เม็ด
ใบผักชีสำหรับโรยหน้า

1. ผสมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันในถ้วย พักไว้
2. ใส่น้ำและกะทิลงในหม้อ ตามด้วยข่า ตะไคร้ใบมะกรูด ตั้งไฟพอเดือด จึงใส่ปลาลงไปต้มให้สุก
(ไฟปานกลาง) แล้วตักใส่ถ้วยที่มีเครื่องปรุงรสในข้อแรก โรยผักชี เสิร์ฟร้อนๆ และปลานั้นถ้า
นำปลากระบอกไปย่างก่อน จะทำให้น้ำต้มยำมีกลิ่นหอมและเนื้อปลาไม่ยุ่ยขณะต้ม
ปลากระบอก

14 กันยายน 2554

ต้มยำชาวเล

ต้มยำชาวเล
ส่วนผสมของต้มยำชาวเล

ปลาดอกหมากควักไส้ออกตัดหัวและหาง 4 ตัว
ข่า 5 แว่น
ตะไคร้หั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น
ใบมะกรูด 4 ใบ
พริกขี้หนูบุบพอแตก 10 เม็ด
มะเขือเทศผ่าครึ่ง 4 ลูก
น้ำมะขามเปียกข้นๆ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งหั่นฝอย 1/4 ถ้วยตวง
ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำ 5 ถ้วยตวง

วิธีทำต้มยำชาวเล

1. นำพริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใส่น้ำตั้งไฟพอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล พอเดือดใส่ปลาดอกหมาก พอปลาสุกใส่น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ แล้วตักต้มยำชาวเลใส่ถ้วย ใส่ผักชีฝรั่ง โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่

11 กันยายน 2554

ต้มแซบไก่ดำ

ต้มแซบไก่ดำ
เครื่องปรุงและส่วนผสมของต้มแซบไก่ดำ
ไก่ดำหั่นทั้งกระดูก 600 กรัม
น้ำซุป 4 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปลาดี 1/4 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ
ข่าหั่นบางๆ 10 แว่น
ตะไคร้ทุบหั่นทอน 6 ท่อน
พริกขี้หนูป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่น 1/4 ถ้วยตวง
ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 1/4 ถ้วยตวง
ผักชีฝรั่งหั่น 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำต้มแซบไก่ดำ
1. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด จนกระทั่งมีกลิ่นหอม จึงใส่ไก่ดำลงไป หรี่ไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนไก่นุ่ม
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ชิมรสให้มีรสเปรี้ยวนำ ยกลงจากเตา ตักต้มแซบไก่ดำโรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี เสริ์ฟร้อนๆ

27 สิงหาคม 2554

ต้มยำสูตรต้มแซบปลาแซลมอน

ต้มยำสูตรต้มแซบปลาแซลมอน
สูตรต้มยำสูตรนี้เป็นสูตรที่ออกแนวอีสาน ถ้าใครไม่มีปลาแซลมอนก็สามารถใช้ปลาอื่นๆ แทนปลาแซลมอนได้ และการต้มปลานั้นไม่ควรต้มนาน เพราะเนื้อปลาจะแข็ง

ส่วนผสมสูตรต้มยำต้มแซบปลาแซลมอน
ปลาแซลมอนหั่น 1/2 กิโลกรัม
น้ำซุป 3 ถ้วยตวง
น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
ข่าหั่นบางๆ 10 แว่น
ตะไคร้ทุบหั่นเป็นท่อน 5 ท่อน
พริกขี้หนูแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 2 ช้อนโต๊ะ

1. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้มจพีกลิ่นหอม จึงใส่ปลาแซลมอนลงไปต้มพอสุก
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริกป่น น้ำมะนาวม ชิมให้มีรสเปรี้ยว เค็ม กลมกล่อม ยกลงจากเตา
โรยต้นหอม ผักชี เสิร์ฟขณะร้อนๆ

25 สิงหาคม 2554

แกงแคไก่

แกงแคไก่
แกงแคไก่
ต้มยำสูตรนี้เป็นสูตรทางภาคเหนือ ซึ่งมีเคล็ดลับนิดหน่อยคือ ถ้าต้องการให้แกงหอมยิ่งขึ้นให้ใส่มะแข่น 4-5 เม็ดลงไปในส่วนผสมของน้ำพริกแกงด้วย และถ้าไม่มีผักเผ็ดตามสูตรอาหารก็ให้เพิ่มปริมาณผักชนิดอื่นได้ตามความชอบ

ส่วนผสมน้ำพริกแกง
1. พริกชี้ฟ้าหั่นท่อนแช่น้ำ 7 เม็ด
2. ตะไคร้ซอย 1 ต้น
3. ข่าหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
4. กระเทียมหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
5. หอมเล็กซอย 2 ช้อนโต๊ะ
6. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1 ช้อนชา
8. ปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
โขลกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด จะได้น้ำพริกแกงประมาณ 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมแกงแคไก่
1. สะโพกไก่สับเป็นชิ้นขนาดพอคำ 1/2 กก.
2. ผักเผ็ดเด็ดยอดสั้นๆ 1 ถ้วย
3. ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน 1/2 ถ้วย
4. มะเขือพวง 1/4 ถ้วย
5. มะเขือเปราะผ่าสี่ 5 ลูก
6. ใบตำลึง 1 ถ้วย
7. ยอดชะอม 1/2 ถ้วย
8. ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 1/4 ถ้วย
9. ใบพริก 1/2 ถ้วย
10. ใบชะพลู หั่นหยาบ 1/4 ถ้วย
11. พริกขี้หนูแดงตามชอบ
12. น้ำพริกแกง 1/4 ถ้วย
13. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
14. น้ำเปล่า 3-4 ถ้วย
15. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงแคไก่
1. ผัดน้ำพริกแองกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอมใส่ไก่ลงผัดจนสุก เติมน้ำลงไป ตั้งไฟ
ให้ส่วนผสมเดือด
2. ใส่ถั่วฝักยาว มะเขือพวง มะเขือเปราะลงไป คนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยตำลึงยอดชะอม ผักเผ็ด ใบพริก ใบชะพลู ผักชีฝรั่ง และพริกขี้หนู
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา คนให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ยกลง ตักเสิร์ฟได้ทันที


18 สิงหาคม 2554

ต้มแซบกระดูกหมู

ต้มแซบกระดูกหมู
ต้มยำหม้อนี้ออกแนวสไตล์อีสาน รสชาติเผ็ดร้อน ซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำมีดังต่อไปนี้

ส่วนผสมต้มแซบกระดูกหมู
กระดูกอ่อนหมูสับเป็นชิ้น 200 กรัม
เครื่องในหมู 200 กรัม
เห็ดฟางตามชอบ
มะเขือเทศลูกเล็กผ่าครึ่ง
ข่าแก่หั่นแว่น 5 แว่น
ตะไคร้หั่นเป็นท่อน บุบพอแตก 1-2 ต้น
หอมเล็กบุบพอแตก 2-3 หัว
ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น พริกขี้หนูแห้งคั่ว ตามชอบ

วิธีทำต้มแซบกระดูกหมู
1. ต้มเครื่องในหมูจนเปื่อยนุ่ม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ
2. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้หอมหัวเล็ก และใบมะกรูดลงไป ตั้งไฟให้
เดือดอีกครั้ง จึงใส่กระดูกอ่อนหมูลงไปเคี่ยวให้สุก ตามด้วยเครื่องในหมู
3. ใส่เห็ดฟางและมะเขือเทศลงต้มพอสุกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียกน้ำตาลทราย ยกลงจากเตา เติมน้ำมะนาว และพริกป่น
4. ตักต้มแซบกระดูกหมูใส่ในถ้วย โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูคั่วและผักชีฝรั่ง


18 มีนาคม 2554

ต้มยำปลากะพงขาวต้มขมิ้น

ต้มยำปลากะพงขาวต้มขมิ้น
ต้มยำสูตรนี้เป็นต้มยำทางภาคใต้ซึ่งจะนิยมใส่ขมิ้นลงไปในอาหาร หากไม่มีปลากะพงขาวก็สามารถใช้ปลาอื่นแทนได้ เมื่อใส่ปลาลงหม้อต้มแล้ว อย่าคนจนกว่าจะเดือด เพราะจะทำให้มีกลิ่นคาว

ส่วนผสมของต้มยำปลากะพงขาวต้มขมิ้น
ปลากะพงขาวหั่นเป็นท่อน 1 ตัว
ตะไคร้หั่นเป็นท่อนบุบพอแตก 2 ต้น
หอมเล็กบุบพอแตก 3 หัว
กระเทียมบุบพอแตก 4 กลีบ
ขมิ้นชันหั่นยาว 2 ซม. บุบพอแตก 1 ชิ้น
น้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
เกลือ 3 ช้อนชา
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

1. ตั้งน้ำพอ เดือด ใส่ดะไคร้ หอมเล็ก กระเทียม และขมิ้นลงไป ตั้งไฟจนเดือด อีกครั้ง
2. ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู น้ำมะขามเปียก และเกลือ จากนั้นใส่ปลากะพงขาวลงไป ต้มจนสุก ยกลง ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟร้อนๆ


17 มีนาคม 2554

ต้มยำกุ้งโซดามะพร้าวอ่อน

ต้มยำกุ้งโซดามะพร้าวอ่อน
ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ต้มยำกุ้งที่จะนำเสนอในวันนี้มีความพิเศษนิดหน่อย คือเราจะใช้โซดามาเป็นตัวช่วยให้น้ำต้มยำมีรสชาติเข้มข้นขึ้น และมีรสหวานของน้ำมะพร้าวอ่อนมาเป็นตัวชูโรง

ส่วนผสมของต้มยำกุ้งโซดามะพร้าวอ่อน
กุ้งก้ามกราม (ตัวละ 100 กรัม) 2 ตัว
โซดา 1 1/4 ถ้วย
น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
ข่าอ่อนหั่นแว่น 5 ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 2 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
เห็ดฟางหั่นเฉียง 2 ดอก
มะเขือเทศสีดาผ่าสี่ 2 ลูก
เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วย
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งคั่วบิ 5 เม็ด
ใบผักชีสำหรับโรยหน้าเล็กน้อย

วิธีทำต้มยำกุ้งโซดามะพร้าวอ่อน
1. ล้างกุ้ง ตัดปลายแหลมที่หัวกุ้งออก แกะเปลือก เด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลัง ใล่จาน พักไว้
2. ผสมโซดาและน้ำมะพร้าวอ่อนลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และ
ใบมะกรูด ต้มจนมีกลิ่นหอม ใส่กุ้ง และเห็ดฟาง ต้มจนสุก ใส่มะเขือเทศ เนื้อมะพร้าวอ่อน พอเดือดอีกครั้ง ลดไฟลง ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และนมข้นจืด ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มนำ ใส่พริกขี้หนูสวน พริกขี้หนูแห้งคั่ว ปิดไฟ
3. ตักต้มยำกุ้งโซดามะพร้าวอ่อนใส่ถ้วย โรยใบผักชี เสิร์ฟร้อนๆ



16 มีนาคม 2554

ต้มแซบเครื่องในวัว

ต้มแซบเครื่องในวัว
ต้มยำเมนูนี้ขอนำเสนอต้มแซบเครื่องในวัว ซึ่งเป็นอาหารประเภทต้มยำที่ทางภาคอีสานนิยมรับประทานกันมาก ส่วนผสมและวีธีทำดังต่อไปนี้

ส่วนผสมต้มแซบเครื่องในวัว
เครื่องในวัวต้ม 500 กรัม
น้ำปลา ¼ ถ้วยตวง
น้ำมะนาว ¼ ถ้วยตวง
ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
น้ำซุป 3 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูสด 10 เม็ด
ข่าหั่นบางๆ 4 แว่น
ตะไคร้หั่นเป็นท่อน 2 ต้น
พริกขี้หนูป่น 2 ช้อนโต๊ะ
ใบยี่หร่าหั่นหยาบ ๆ 1/4 ถ้วยตวง
ต้นหอมชอย 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีตัดสั้น ๆ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำต้มแซบเครื่องในวัว
1.หั่นเครื่องในเป็นชิ้นพอควร นำไปต้มกับข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด จนเครื่องในเปื่อยดี ตักขึ้นพักไว้
2.ตั้งน้ำซุป ใส่เครื่องในวัวที่เตรียมไว้ พอเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนูป่น พริกขี้หนูสด
3.พอเดือดทั่วกันใส่ใบยี่หร่า ต้นหอมซอย ผักชี ยกเสิร์ฟร้อนๆ

*เครื่องในวัวจะต้องเลือกที่สะอาดและนำมาต้มให้หมดคาว มีรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม นำพริกป่นละเอียด และผักจำพวกยี่หร่า ต้นหอม ผักชีโดยหน้า จะมีกลิ่นชวนรับประทาน
*ใช้เหล้าขาว 28 ดีกรี มาคลุกกับเครื่องในทีละน้อย จนหมดกลิ่นแล้วจึงล้างออกจะช่วยลดกลิ่นคาว
*นำเนื้อที่มีกลิ่นไปคลุกด้วยเกลือป่น และนำมาขยำด้วยใบตองฉีกฝอยๆ ให้ทั่วกลิ่นนั้นจะหายไป

9 มีนาคม 2554

แกงส้มชะอมกุ้งก้ามกรามกับหมึกไข่

แกงส้มชะอมกุ้งก้ามกรามกับหมึกไข่
แกงส้มนี้เป็นแกงส้มประยุกต์โดยใส่กุ้งก้ามกรามและหมึกไข่ เนื่องจากกุ้งก้ามกรามเป็นกุ้งตัวใหญ่มีมันเยอะทำให้น้ำแกงมีรสอร่อย มีมันกุ้งลอยทำให้น่ารับประทาน ส่วนหมึกไข่ เนื้อจะหวานกรอบ ไข่มีความเหนียวมันอร่อย

ส่วนผสมของแกงส้มชะอมกุ้งก้ามกรามกับหมึกไข่
น้ำ 7 ถ้วย
กุ้งก้ามกราม (ตัวละ 150 กรัม)แกะเปลือกผ่าหลัง 2 ตัว
ปลาหมึกไข่ (200 กรัม) หั่นแว่น 1 ตัว
ผักกาดขาวหั่นชิ้พอคำ 250 กรัม
น้ำปลา 1/2 ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี้บ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

สูตรเครื่องแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม10 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 20 เม็ด
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
หอมแดงหั่น 1/2 ถ้วย
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1 ช้อนโต๊ะ
กระชายขูดเปลือกหั่น 1/4 ถ้วย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมชะอมไข่ทอด
ไข่ไก่ 3 ฟอง ชะอมเด็ด 80 กรัม
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย

1.ใส่น้ำพริกเครื่องแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย
2.ทำชะอมไข่ทอดโดยตีไข่ผสมกับชะอม คนพอทั่ว ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางพอร้อน ใส่ไข่ลงทอดเป็นแผ่นหนา ทอดจนสุกทั้งสองด้านตักขึ้น หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ตักใส่จาน
3.ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่เครื่องแกง พอเดี่ยว ใส่กุ้งและหมึก พอสุกใส่ผักกาดขาว ปรุงรสตามชอบ ปิดไฟ
4. จัดชะอมไข่ทอดใส่ถ้วย ตักแกงส้มใส่ เสิร์ฟร้อนๆ สามารถใช้เป็นได้ทั้งกับแกล้มและกับข้าวไปในตัว

5 มีนาคม 2554

ไข่ตุ๋นหม้อไฟทรงเครื่อง

ไข่ตุ๋นหม้อไฟทรงเครื่อง
ต้มยำสูตรนี้จะนำไข่ตุ๋นมาประยุกต์ โดยจะนึ่งในหม้อไฟ ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว และนมสด เพื่อให้เนื้อไข่มีความนุ่มและมีกลิ่นหอม ก่อนรับประทาน จุดไฟแอลกอฮอล์ใส่ เพื่อให้ไข่ตุ๋นร้อนตลอดเวลา จะทำให้ต้มยำสูตรนี้อร่อยยิ่งขึ้น

ส่วนผสมของไข่ตุ๋นหม้อไฟทรงเครื่อง
ไข่เป็ด 4 ฟอง
เนื้อหมูสับ 3 ช้อนโต๊ะ
วุ้นเส้นแช่น้ำจนนุ่มตัดท่อนสั้น 1/4 ถ้วย
หอมแดงซอย 4 หัว
น้ำมันกระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 2/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 3/4 ถ้วย
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 8 ตัว
ไข่เยี่ยวม้าต้มนาน 1 นาทีพร้อมแกะเปลือกหั่นเสี้ยว 2 ฟอง

1. ต่อยไข่ใส่อ่างผสม ตีให้เข้ากัน ใส่เนื้อหมูสับ วุ้นเส้น หอมแดง น้ำมันกระเทียมเจียว นมข้นจืด
น้ำปลา และน้ำ ผสมให้เข้ากัน ใส่พริกไทยป่น เทใส่หม้อไฟหรีอถ้วย นำไปนึ่งในั้นลังถึงบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงนาน 12 นาที หรือจนสุก จากนั้นวางกุ้งสลับกับไข่เยี่ยวม้า แล้วนึ่งต่อ 2 นาที ปิดไฟ
2. ยกไข่ตุ๋นออกจากเตา โรยกระเทียมเจียว จุดแอลกอฮอล์ใสในหม้อไฟ เสิร์ฟร้อนๆ
ต้มยำสูตรนี้รสจะกลมกล่อม จะเผ็ดพริกไทย แต่ถ้าใครชอบรสชาติเผ็ดร้อนก็สามารถใส่พริกสด หรือพริกป่นเพิ่มเติมได้


24 กุมภาพันธ์ 2554

ต้มแซบกะเหรี่ยงป่า

ต้มแซบกะเหรี่ยงป่า
ต้มยำสูตรนี้มีรสชาติเผ็ดเค็มเปรี้ยว เพราะใส่พริกกะเหรี่ยงแห้งป่นและใส่ใบกะเพราเพิ่มความเผ็ดร้อนให้จัดจ้านขึ้น

ส่วนผสมของต้มแซบกะเหรี่ยงป่า
น้ำซุปหมู 3 ถ้วย
ข่าแก่หันแว่นบาง 1O ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
เห็ดฟางผ่าสี่ส่วน 5 ดอก
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 1/4 ช้อนชา
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด
พริกกะเหรี่ยงแห้งคั่วโขลกหยาบ 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูสีแดงโขลกหยาบ 1 ช้อนชา
ขั้วตับ 500 กรัม น้ำ 4 ถ้วย

1. ทำหมูตุ๋นใดยล้างขั้วตับ เลาะพังผืดออก หั่นเป็นริ้นขนาด นิ้ว ใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำ ยกขึ้น
ตั้งบนไฟกลาง พอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวนาน 45 นาที หรือจนเปื่อยนุ่ม
2. ต้มน้ำซุปหมูในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด เคี่ยวจนมีกลิ่นหอม
ตักเนื้อหมูตุ๋น ใส่เห็ดฟาง พอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และเกลือ ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มนำ ใส่พริกขี้หนูสวน พริกกะเหรี่ยงแห้ง และพริกขี้หนูสีแดง ตามด้วยใบกะเพรา ปิดไฟ

23 กุมภาพันธ์ 2554

ต้มข่าปลาหมึกยัดไส้

ต้มข่าปลาหมึกยัดไส้
ต้มยำสูตรนี้เป็นต้มยำน้ำข้นโดยมีปลาหมึกเป็นตัวชูโรงให้ต้มยำชามนี้น่ารับประทานยิ่งขึ้น

ส่วนผสมของต้มข่าปลาหมึกยัดไส้
หัวกะทิ 2 ถ้วย
น้ำมะพร้าวอ่อน 1 1/2 ถ้วย
ข่าอ่อนหั่นแว่น 7 จ้น
ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
หอมแดงทุบ 2 หัว
เห็ด 100 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วย
เกลือสมุทร 21/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ+2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูแห้งคั่วบิ 3 เม็ด
ส่วนผสมของปลาหมึกยัดไส้
ปลาหมึกกล้วย (300 กรัม) 1 ตัว
รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทย 15 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด 1/2 ช้อนชา
เนื้อหมูสับ 150 กรัม
น้ำปลา 1 ซ้อนโต๊ะ

วิธีทำต้มข่าปลาหมึกยัดไส้
1. ล้างปลาหมึก ดึงหนวดออกจากตัว ลอกเยื่อออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นหนาขนาด
1.5 นิ้ว จากนั้นโขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่อ่างผสมใส่เนื้อหมูลงผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผสมให้เข้ากัน นำไปใส่ในชิ้นส่วนปลาหมีก

2. นำชิ้นส่วนปลาหมึกไปนึ่งในลังถึงเพื่อให้ไส้อยู่ตัว จากนั้นผสมหัวกะทิและน้ำมะพร้าวเข้าด้วยกันในหม้อ ตั้งบนไฟกลาง หมั่นคนจนเดือด ใส่ข่า ะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดง เคี่ยวสักครู่จนมีกลิ่นหอม ใส่ปลาหมึกยัดไว้ที่นึ่ง เห็ด และเนื้อมะพร้าวอ่อน พอสุก ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล ชิมรสให้เปรี้ยว หวานเค็มเผ็ด

3. ตักใส่ชามเสิร์ฟร้อนๆ โรยหน้าด้วยผักชี ต้มข่าปลาหมึกยัดไส้ชามนี้ก็เสร็จเรียบร้อย


16 กุมภาพันธ์ 2554

ต้มข่าปลาหมึกยัดไส้

ต้มข่าปลาหมึกยัดไส้
ต้มยำประเภทนี้เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีรสชาติออกเปรี้ยวเค็มและหวานกลมกล่อม

ส่วนผสมของต้มข่าปลาหมึกยัดไส้
หัวกะทิ 2 ถ้วย
น้ำมะพร้าวอ่อน 1 1/2 ถ้วย
ข่าอ่อนหั่นแว่น 7 ต้น
ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
หอมแดงทุบ 2 หัว
เห็ดโคน 100 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วย
เกลือสมุทร 2 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ+2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูแห้งคั่วบิเป็นชิ้นๆ 3 เม็ด
ใบผักชี 1 ต้น
ปลาหมึกกล้วย (300 กรัม) 1 ตัว
รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทย 15 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด 1/2 ช้อนชา
เนื้อหมูสับ 150 กรัม
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำต้มข่าปลาหมึกยัดไส้
1. เริ่มต้นเราจัดกาดรกับปลาหมึกก่อนโดยล้างปลาหมึก ดึงหนวดออกจากตัว ลอกเยื่อออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นหนา จากนั้นโขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่อ่างผสม
ใส่เนื้อหมูลงผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผสมให้เข้ากัน นำไปยัดไว้ในชิ้นปลาหมึก นึ่งด้วยลังถึงบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟกลางประมาณ 3 นาที เพื่อให้ไส้หมูสับอยู่ตัว
2. ผสมหัวกะทิและน้ำมะพร้าวเขาด้วยกันในหม้อ ตั้งบนไฟกลาง หมั่นคนจนเดือด ใส่เครื่องแกง เครื่องเทศ คือ ข่าตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดง เคี่ยวสักครู่จนมีกลิ่นหอม ใส่ปลาหมึกยัดไว้ที่นึ่ง เห็ดโคน
และเนื้อมะพร้าวอ่อน พอสุก ปรุงรสด้วย เกลือ น้าปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล
3. ต้มข่าปลาหมึกยัดไส้ก็จะเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ ตักใส่ถ้วย ใส่พริกขี้หนูแห้ง ใบผักชี รับประทานขณะร้อนๆ

14 กุมภาพันธ์ 2554

ต้มยำปลาช่อนขี้เมา

ต้มยำปลาช่อนขี้เมา
ต้มยำเมนูนี้หากเสริ์ฟในหม้อไฟก็จะอร่อยมากขึ้น น้ำต้มยำร้อนๆ จะแทรกเข้าไปในเนื้อปลาทำให้เนื้อปลานุ่ม ได้รสชาติเผ็ดเปรี้ยวเค็ม สูตรนี้ใส่พริกไทยอ่อน พริกขี้หนู ช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนแซบถึงใจ

ส่วนผสมของต้มยำปลาช่อนขี้เมา
ปลาช่อน (500-600 กรัม) 1 ตัว
น้ำมันพืช 5 ถ้วย
น้ำซุปหมู 1 1/2 ถ้วย
ข่าแก่หั่นแว่น 5 ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
เห็ดฟางผ่าสี่ 6 ดอก
มะเขือเทศสีดาผ่าสองหรือผ่าสี่ 2 ลูก
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด
พริกไทยอ่อนเด็ดช่อสั้น 3 ช่อ
ผักชีฝรั่งหั่นท่อน 1 ซม. 2 ต้น
พริกขี้หนูแห้งคั่วบิชิ้นเล็ก 6 เม็ด
นมข้นจืด 1/2 ถ้วย+3 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดใบ 1 ต้น

วิธีทำต้มยำปลาช่อนขี้เมา
1. ขอดเกล็ดปลา ผ่าท้อง ควักไส้และดีออก ตัดครีบหลังออก เคล้าเกลือให้ทั่ว ล้างจนหมดเมือก
บั้งโดยเอียงมีดเล็กน้อยพอห่าง ๆทั้งสองด้าน ซับน้ำให้แห้ง
2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อนจัด ใส่ปลาลงทอดจนสุกเหลืองทั่ว ตักพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ต้มน้ำซุปหมูในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด เคี่ยวจนมีกลิ่นหอม
ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มกลมกล่อม ใส่
พริกขี้หนู พริกไทยอ่อน ผักขีฝรั่ง พริกขี้หนูแห้งคั่ว เเละนมข้นจืด พอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ
4. จัดปลาทอดใส่หม้อไฟ ตักน้ำด้มยำใส่ โรยใบผักชี เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมข้าวสวย
ต้มยำปลาช่อนขี้เมาสูตรนี้สามารถนำมาเป็นกับแกล้มได้อย่างดีทีเดียว

20 มกราคม 2554

ต้มยําไก่บ้าน

ไก่บ้าน

ไก่บ้านเป็นไก่ที่เราใช้เรียกไก่ที่มีสายพันธุ์มาจากไก่ป่า เลี้ยงไว้ตามบ้านเพื่อเก็บเศษอาหารตามลานบ้าน ขนบนลำตัวไก่บ้านจะมีสีต่าง ๆ กัน เช่น สีดำ ขาว น้ำตาลอมแดง หน้าแข้งจะมีสีแตกต่างกัน นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายอย่าง เช่น "ต้มยำไก่บ้าน" อ่อมไก่บ้าน ปิ้งไก่บ้าน เป็นต้น
ไก่บ้านนั้นมีไขมันน้อยกว่าไก่เลี้ยงจากฟาร์มมาก ทำให้รสชาติเนื้อ ไม่เลี่ยน เลือกใช้ไก่รุ่นกระทงเนื้อจะนุ่มอร่อยพอดี อย่าเลือกไก่แก่ สังเกตุได้จากหน้าแข้งไก่จะมีสีนวลอ่อน ขนบริเวณอก ยังขึ้นไม่เต็มที่
ต้มยําไก่บ้าน
ส่วนผสม
ไก่บ้าน 1 ตัว
ข่า 4-5 แว่น
ตะไคร้ 1 ต้น
ใบมะกรูด 4-5 ใบ
ผักชีฝรั่ง 1 กำมือ
หัวหอม 2-3 หัว
มะเขือเทศสีดา 3-4 ลูก
น้ำมะขาม 1 ปั้น
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชี 1 ต้น
พริกขี้หนู 10 เม็ด
เกลือป่น

วิธีทำ
เนื้อไก่บ้าน
1.นำไก่บ้านมาล้างทำความสะอาด สับไก่ออกเป็นชิ้นๆพอดีคำ
2.โขลก พริก กระเทียม หอมแดง เข้าด้วยกัน
3.ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ถ้าใช้น้ำซุปจะทำให้ ต้มยำไก่บ้านรสกลมกล่อม อร่อยยิ่งขึ้น
4.พอน้ำร้อน ใส่ข่าหั่นแว่น ตะไคร้หั่นท่อน ใบมะกรูดฉีกลงไป พอน้ำเดือดพล่าน ใส่ไก่บ้านสับลงไปต้มให้สุก
5.ใส่พริกที่โขลกไว้ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว มะขามเปียก และน้ำปลา เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ก่อนปิดไฟใส่มะเขือเทศผ่าซีก ใบผักชีฝรั่งและผักชีเพื่อให้กลิ่นหอมชวนกิน
ปิดไฟ ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟได้ทันที เสร็จแล้วจะได้ต้มยำไก่บ้านร้อนๆ จี๊ดจ๊าดแซ่บลิ้น อาจจะดัดแปลงเป็นต้มยำไก่บ้านใส่ใบมะขามอ่อน ก็อร่อยไปอีกแบบ